ทีมข่าวไทยรัฐสปอร์ต วิเคราะห์ 4 เหตุผล เพราะอะไรทีมชาติเวียดนาม จึงเป็นชาติเดียวในอาเซียน ที่อยากให้การแข่งขันฟุตบอล "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020" แข่งขันในปีนี้ ขณะที่ชาติอื่นๆ อยากให้เลื่อนไปเป็นปี 2021
1. ฟอร์มกำลังพีค
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เวียดนาม ในยุคของ "ปาร์ค ฮังซอ" คือทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในอาเซียน ด้วยการเป็นเบอร์ 1 ในตารางคะแนน และเป็นแชมป์เก่าในรายการนี้ อีกทั้งขุมกำลังผู้เล่นในขณะนี้ถือว่าสมบูรณ์ ดังนั้น หากเวียดนามต้องการเป็นแชมป์รายการนี้อีกสมัย การแข่งขันฟุตบอล "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020" ก็ควรจัดการแข่งขันตามกำหนดเดิม เพราะหากเลื่อนการแข่งขันเป็นปีหน้า จะทำให้แผนการเตรียมทีมของเวียดนาม สู่แชมป์อาเซียนอีกสมัย อาจจะต้องปรับกันยกใหญ่
นอกจากนั้น เวียดนามคาดการณ์ไว้แล้วว่า พวกเขาน่าจะการันตีพื้นที่ในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ในเดือนพฤศจิกายน ดังนั้น หากฟุตบอล "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020" แข่งขันต่อเนื่องจากรายการนี้ ก็น่าจะทำให้พวกเขาสามารถต่อยอดความมั่นใจในฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ต่อได้ทันที

2. ชาติอื่นๆ ต้องโฟกัสบอลลีก
หากการแข่งขัน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020" เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนตามเดิม ทีมคู่แข่งสำคัญของเวียดนาม จะเจอปัญหาทับซ้อนในเกมลีกอย่างปฏิเสธไม่ได้ เช่น ไทย ที่ประกาศชัดเจนว่า จะไม่หยุดพักการแข่งขันในฟุตบอลรายการนี้, มาเลเซีย ที่ยังไม่สรุปวันจบการแข่งขันลีก, อินโดนีเซีย ที่เริ่มการแข่งขันอีกครั้งเดือนตุลาคม
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หากฟุตบอลลีกของประเทศเหล่านี้ ยังดำเนินต่อไป นักเตะตัวหลักของชาติต่างๆ เหล่านี้ ก็จะไม่ถูกปล่อยตัวมารับใช้ทีมชาติ เพราะรายการนี้ไม่ได้อยู่ในปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ทำให้ทีมชาติเวียดนาม ที่วางโปรแกรมหลีกให้กับฟุตบอลรายการนี้มาตั้งแต่ต้น จะได้เปรียบที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้

3. กระหายอยากได้แชมป์
เวียดนาม ถือเป็นชาติที่ให้ความสำคัญกับฟุตบอลระดับอาเซียนทุกๆ ครั้ง ไม่ว่าจะเป็น ซีเกมส์ หรือ ซูซูกิ คัพ สังเกตจากจำนวนแฟนฟุตบอล และการนำเสนอข่าวจากสื่อมวลชน เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา น้อยครั้งที่เวียดนาม จะก้าวขึ้นมาสู่บัลลังก์อันดับ 1 ในย่านนี้ แต่วันนี้ เวียดนามขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของอาเซียน เต็มตัวทำให้แฟนฟุตบอลของประเทศ ต่างคาดหวังให้ทีมของพวกเขาคว้าแชมป์มาครองอีกครั้ง
ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำไม ทีมชาติเวียดนาม จึงเเสดงความต้องการอยากคว้าแชมป์ในรายการนี้ให้ได้ เนื่องจากเหตุผลที่แฟนๆ เอง ก็คาดหวังที่จะให้เวียดนามครองเบอร์ 1 ของอาเซียนอีกสมัย และพวกเขาก็ไม่ต้องการรอให้การฉลองแชมป์เลื่อนไปเป็นปีหน้า นำมาซึ่งความกระหายของนักเตะเวียดนาม ที่ถ้าเลื่อนไปปีหน้า ไม่แน่ใจว่าความกระหายนี้จะลดลงหรือไม่

4. สถานการณ์โควิด ดีกว่าชาติอื่นๆ
เป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆ ในสถานการณ์เช่นนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ เวียดนาม มีจำนวนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่น้อยกว่าชาติอื่นๆ ทำให้ฟุตบอลลีกของเวียดนาม สามารถเดินหน้าต่อได้เร็วกว่าชาติอื่นๆ ที่ยังไม่สามารถเริ่มการแข่งขันได้ ทำให้ "ปาร์ค ฮังซอ" เฮดโค้ชใหญ่ของเวียดนาม สามารถตระเวนดูฟอร์มผู้เล่นได้ ในขณะที่โค้ชทีมชาติคนอื่นๆ ยังทำไม่ได้
หากเลื่อนฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ไปในปี 2021 และสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น เท่ากับประเทศอื่นๆ มีโอกาสที่จะเดินหน้าเตรียมทีมได้เต็มที่เช่นเดียวกับที่เวียดนามทำอยู่ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเวียดนามจึงอยากให้แข่งขันภายในปีนี้ เพราะความได้เปรียบเหนือชาติอื่นๆ นั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม...
"เหตุผล" - Google News
July 30, 2020 at 06:15AM
https://ift.tt/2X7uVPt
เจาะ 4 เหตุผล ทำไมเวียดนามเป็นชาติเดียวที่อยากแข่ง "ซูซูกิ คัพ" ปีนี้ - ไทยรัฐ
"เหตุผล" - Google News
https://ift.tt/3bJji6p
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/2LbDDWd
Bagikan Berita Ini
0 Response to "เจาะ 4 เหตุผล ทำไมเวียดนามเป็นชาติเดียวที่อยากแข่ง "ซูซูกิ คัพ" ปีนี้ - ไทยรัฐ"
Post a Comment