nn ใครว่า “กระทรวงการคลังถังแตกจนต้องขอครม.กู้เงินเพิ่มเติม 2.14 แสนล้านบาท”...ไม่จริงไม่จริงนะ...!!กระทรวงการคลัง...เขาชี้แจงแบบนี้...ที่ต้องขอครม.กู้เงินเพิ่มเติมเพราะว่า...แค่ขออนุมัติกรอบวงเงินไว้ในกรณีในปีงบประมาณ 2563 รัฐมีรายจ่ายสูงกว่ารายได้...ซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทั่วโลกรวมถึงเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพิงต่างประเทศค่อนข้างมาก...และการหดตัวของเศรษฐกิจและการดำเนินมาตรการต่างๆ ด้านการคลัง...และการเลื่อนเวลาชำระภาษี...ได้ส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล...เพื่อเตรียมการรองรับการใช้จ่ายของรัฐบาลในช่วงต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2564...และเพื่อให้ดำเนินมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง...กระทรวงการคลังจึงจำเป็นต้องขออนุมัติกรอบการกู้เงินไว้...แต่กระทรวงการคลังจะพิจารณากู้เงินตามความจำเป็นเท่านั้น...!! แวดวงการเงิน...ไม่รู้ว่าอันนี้สามารถอธิบายได้ไหมว่า “รัฐบาลไม่ได้ถังแตก”...แต่ถ้าคิดง่ายๆเปรียบประเทศเป็นบ้านหลังหนึ่ง...สภาพแบบนี้คือ...รายได้ไม่พอรายจ่าย...เลยต้องเตรียมหาเงินกู้มาสำรองไว้สำหรับรายจ่ายที่กำลังจะเกิดขึ้นแน่ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้...
nn ไหนก็อยู่ที่กระทรวงการคลังแล้ว...เร็วๆ นี้ จะมีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ ซี10 หลายตำแหน่ง...ทั้งอธิบดีกรมศุลกากร...คนใหม่ แทน เดอะตู่-กฤษฎา จีนะวิจารณะ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงการคลัง...และระดับรองปลัดกระทรวงที่จะมีการเกษียณอายุราชการ...!! แวดวงการเงิน...ได้ยินมาว่าหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงกลุ่ม Young Blood ที่โดดเด่นและมีแรงหนุนให้ขยับขึ้นมารั้งตำแหน่งอธิบดีคือ...เดอะบั๊ด-ลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)...และยังควบตำแหน่ง โฆษกกระทรวงการคลัง...ที่ผ่านมามีบทบาทเด่นมากในการสื่อสารกับสังคมเกี่ยวภาระหน้าที่ของกระทรวงการคลังในการประคับประคองและฟื้นฟูเศรษฐกิจ...จนทำให้ตอนนี้สังคมจะเข้าใจแล้วว่าพระเอกที่จะช่วยเศรษฐกิจไทยให้พ้นปากเหวไวรัสโควิด-19 ได้คือกระทรวงการคลัง...!! แต่หลายคนก็บอกอีก...ในช่วงนี้กระทรวงการคลังต้องการคนเก่งแบบนี้...ในยุคที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง...ไม่ค่อยชอบพูดมาก...มีหรือจะไม่อยากเก็บคนแบบนี้ไว้ใกล้ๆ ตัว (สศค. รมว.คลังกำกับดูแลเอง)...
nn ส่วนเรื่องตัวเลขหนี้สาธารณะที่มักจะถูกหยิบเอามาเป็นประเด็นทางการเมือง...และพยายามทำให้สังคมเกิดความไม่สบายใจ...ฟังทางนี้...คุณวิรไทสันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)....บอกว่า กรอบตัวเลขหนี้สาธารณะที่ไม่ควรเกิน 60% ของจีดีพี เป็นตัวเลขที่กำหนดเป็นกรอบไว้ในช่วงภาวะปกติ...แต่ตอนนี้ประเทศเจอวิกฤติเศรษฐกิจ...ผู้ที่ยังมีความสามารถพยุงและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ คือ ภาครัฐ....ดังนั้นจึงไม่อยากให้หลายฝ่ายกังวลที่ตัวเลขเพดานมากเกินไป...แต่ควรโฟกัสที่การนำเงินไปใช้ในโครงการต่างๆ ซึ่งควรเน้นโครงการที่ทำให้เกิดการจ้างงาน หรือการปรับโครงสร้างที่จะนำไปสู่วิถีชีวิตหรือธุรกิจรูปแบบใหม่หลังไวรัสโควิด-19...!! แต่เดี๋ยวก่อนรัฐบาลอย่างเพิ่งดีใจว่ามีคนหนุนแล้วจะใช้เงินจนเพลิดเพลินไป...!! ผู้ว่าการแบงก์ชาติ...ท่านทิ้งเชิงอรรถไว้ว่า...!! การใช้จ่ายของภาครัฐต้องคำนึงถึงความสามารถในการหารายได้ในอนาคต ให้สอดคล้องกับการชำระหนี้ที่ก่อขึ้นด้วย...nn
อนันตเดช พงษ์พันธุ์

"เข้าใจแล้ว" - Google News
August 25, 2020 at 06:00AM
https://ift.tt/32qSFQa
คอลัมน์โลกธุรกิจ - แวดวงการเงิน : 25 สิงหาคม 2563 - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"เข้าใจแล้ว" - Google News
https://ift.tt/2KELImk
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/2LbDDWd
Bagikan Berita Ini
0 Response to "คอลัมน์โลกธุรกิจ - แวดวงการเงิน : 25 สิงหาคม 2563 - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"
Post a Comment